“วีนา ปวีนา” ควงสามีนักธุรกิจหมื่นล้านเปิดเส้นทางความรัก

“วีนา ปวีนา” ควงสามีนักธุรกิจหมื่นล้านเปิดเส้นทางความรัก พร้อมเคลียร์ดราม่าแต่งงานแล้วมาประกวด MUT ทำไม?

วีนา ปวีนา สิงห์ทักวาล นางงามนักสู้คนดัง ดีกรี MUT ภูเก็ต 2023 ที่วันนี้ขอควงสามีนักธุรกิจหมื่นล้าน หาญเจริญสิงห์ทักวาล มาเปิดเผยเส้นทางความรัก สามีสายซัปพอร์ตที่พร้อมดันภรรยาคนสวยไปสู่จักรวาล พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตถูกบูลลี่มาตั้งแต่วัยเด็ก ขอเคลียร์คำครหา แต่งงานแล้วจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ทำไม? ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

วีนาลงประกวดนางงามประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 กลับมาแก้มือในปี 2020 ได้รองอันดับหนึ่ง จับมือกับอแมนด้า แฟนนางงามก็ลุ้นให้วีนามาประกวดอีกครั้ง จู่ๆ วีนาแขวนส้นสูงแล้วบอกว่าไม่ วีนาจะแต่งงาน พอประกาศแฟนนางงามช็อกกันหมด เพราะลุ้นอยากให้เป็นมิสยูนิเวิร์สฯ ทำไมตอนนั้นถึงประกาศว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้?

วีนา : ตอนนั้นที่ประกวดจบ ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ได้ค้นพบตัวเอง ได้มาเจอความรัก และรู้จักความรัก เวลาเราจะทำตามความฝันเราก็ต้องใช้ความรักเหมือนกัน เราต้องมีแพชชั่น ฉะนั้นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตคือตัวเราเองฉะนั้นเราต้องรู้จักรักตัวเองก่อน เราก็เลือกใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ถูกคอกับเรา ตอนนั้นเลยต้องเลือกระหว่างความฝันกับความรัก เลยเลือกความรักก่อน แล้วคิดว่าถ้าวันหนึ่งเราจะได้เป็นมิสยูนิเวิร์สฯ เดี๋ยวมิสยูนิเวิร์สฯ จะมาหาเราเอง  

ตอนนั้นอกหักจากความฝันมั้ยตอนอยู่บนเวที?

วีนา : เหมือนเราตามคนๆ นึงมาสองปี กลายเป็นว่าสิ่งที่เราค้นพบเขาไม่ชอบเรา เขาไม่เลือกเรา เราเลยรู้สึกว่า อุ้ยเหมือนโดนหักอกนิดนึง แต่เราเข้าใจในการเลือกขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส เพราะเราเชื่อมั่นมาก แต่เราก็ต้องเดินทางต่อไป และพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ก็เลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร งั้นเราลองเลือกรักตัวเองในแบบอื่นดู แล้วก็ได้มาเจอเขา ได้ทำประสบการณ์หลายๆ อย่าง ก็รู้สึกดีที่ได้แต่งงาน และทำสิ่งที่รักพร้อมๆ กัน

อยู่ดีๆ ต้นปีกองประกวดก็ประกาศเปลี่ยนกฎ คนแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว เป็นทรานส์ สามารถประกวดได้ คิดมั้ยว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม?

วีนา : ก็ตื่นเต้นและขนลุกมาก เพราะว่า 70 ปีมิสยูนิเวิร์สไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พอเราแต่งงานไม่กี่เดือน กฎมั้นเปลี่ยน สามีก็เห็นคนแรกและทักเรามาว่านี่เรื่องจริงหรือเปล่า ก็บอกว่าเดี๋ยวไปดูก่อนว่ามันคือความจริงมั้ย สรุปว่าจริงวินาทีแรกที่รู้ว่าจริง เราตัดสินใจอยู่ในหัวแล้วว่าปีแรกฉันมาแน่ ได้เจอฉันแน่(หัวเราะ)

แอบคิดในใจมั้ย ว่ากฎใหม่ทำเพื่อเราหรือเปล่า?

วีนา : ถ้าจะคิดเพื่อความสบายใจเราก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน แต่องค์กรมิสยูนิเวิร์สเขาใหญ่มาก เขาต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดี วีนาเชื่อว่าเขาคงไม่เปลี่ยนกฎเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เปลี่ยนกฎเพื่อผู้หญิงทุกรูปแบบให้สามารถเป็นมิสยูนิเวิร์สได้ ตรงนี้คือสิ่งที่เขาอยากให้คนเห็นและมีการเข้าร่วมกันในสังคมมากยิ่งขึ้น

สู้มากเลยเพื่อเวทีมิสยูนิเวิร์สฯ ทำไมปักใจเวทีนี้เหลือเกิน ไม่คิดจะไปเวทีอื่นบ้างเหรอ?

วีนา : จำได้ว่าคนชวนวีนามาประกวดตอนจบมหาวิทยาลัย และเขาชวนเราไปประกวดเวทีอื่น ซึ่งเราจะได้แต่งตั้งเป็นตัวแทนของประเทศเลยนะ แต่ตอนนั้นเราจำได้ว่าสิ่งที่เราดูมาตั้งแต่เด็กๆ และเราเชื่อมั่น เรามีแรงบันดาลใจ คือมิสยูนิเวิร์ส ฉะนั้นเวทีแรก เวทีที่สอง สาม หรือเวทีสุดท้ายที่วีนาจะประกวด ต้องเป็นมิสยูนิเวิร์สฯ เท่านั้น เพราะเราเชื่อมั่นเขา และเราอยากให้แรงบันดาลใจในสิ่งที่เราเป็น กับผู้หญิงทุกคน ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกด้วย ไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรมา ถ้าคุณเลือกพัฒนาตัวเอง คุณก็สามารถเป็นมิสยูนิเวิร์สฯ ได้ ขอพี่พีเคเลยแล้วกัน คำสุดท้ายบนเวที ให้เป็นชื่อวีนาเลย (หัวเราะ)

ทำไมถึงผลักดันให้ภรรยาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์?

หาญเจริญ : เราเห็นว่าเธอเป็นแพชชั่นของการประกวดสูงมาก พอเห็นคนที่เรารักมีแพชชั่นตรงนี้สูงมาก เราก็อยากให้เธอมีความสุข อยากให้เธอทำในแพชชั่นของเธอ

เขินมั้ยเพื่อนมาล้อดันภรรยาอยู่ได้?

หาญเจริญ : (หัวเราะ) ไม่ได้เขิน ผมเห็นเขาชอบทำด้านนี้ ผมก็เป็นส่วนนึงที่ซัปพอร์ตได้

ถ้าคนไทยก็แซวป๋าดัน?

หาญเจริญ : ไม่เข้าใจ (หัวเราะ) ผมเป็นสามีที่รัก

เวทีมิสยูนิเวิร์ส ที่ผ่านมาทั้งหมด นางงามคนไหนเป็นแรงบันดาลใจให้เรา?

วีนา : ถ้าคนไทยคนล่าสุดที่ได้มงกุฎ คือพี่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ วีนาชอบมาก แต่ถ้าสตอรี่คนที่ชนะแล้ววีนาชอบมาก เขาคือพีอา อาลอนโซ ววทซ์บัค จากฟิลิปปินส์ ที่ชนะมิสยูนิเวิร์สปี 2015 เขาประกวดสามครั้งเหมือนวีนา แล้วครั้งที่สามเขาได้มงกุฎภายในประเทศและเขาชนะมิสยูนิเวิร์สด้วย วีนามองเขาเป็นไอดอลและจะทำให้ได้ในแบบนั้นค่ะ  

ไฟในตัวโชติช่วง มุ่งมั่นสู้เต็มที่ สามีซัปพอร์ตดีแบบนี้ เตรียมตัวยังไงบ้าง เราเปลี่ยนการเตรียมตัวยังไง รูปร่างเปลี่ยนไปเยอะมาก?

วีนา : พอรู้ว่าจะมาประกวด เราก็ดูแลเรื่องรูปร่าง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ามิสยูนิเวิร์สคือการประกวดระดับโลก ระดับจักรวาลด้วยซ้ำ หุ่นร่างกายเราสำคัญมาก ก็ฟิตร่างกาย ทานอาหารคลีน ทำพีราทิส ทำทุกอย่างที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเฟรซ มีกล้ามเนื้อในร่างกายมากยิ่งขึ้น ต่อมาคือการพูด ภาษาอังกฤษสำคัญมาก เราก็ฝึกมาตลอดอยู่แล้ว เราก็พบเจอคุณสามี ทำงานด้วยกัน ทำงานในบริษัทก็ใช้ภาษาอังกฤษหมดเลย ฝึกภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ อยากเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่ฝึกภาษาอังกฤษด้วย ถ้าเราใช้ทุกวัน เราก็ทำได้ นอกจากนั้นตอบคำถามเลยค่ะ คนข้างๆ นี่แหละ ดิฉันก็เตรียมคำตอบมาพูดให้เขาฟัง ฟังแล้วเป็นยังไง กินใจมั้ย เขาก็คอมเมนต์ว่ายูปรับตรงนั้น ตรงนี้ ได้

ปีก่อนนั้นบอกว่าขาใหญ่ไปนิดนึง รอบตอบคำถามเขาบอกมีความตื่นเต้นเล็กน้อย ปีนี้แก้ไขหมดแล้ว พร้อมแล้ว ดูแลรูปร่าง ดูแลตัวเอง มีส่วนช่วยภรรยาให้สวยขนาดนี้ได้ยังไง?

หาญเจริญ : ผมเป็นคนออกกำลังกาย และกินอาหารสุขภาพดีอยู่แล้ว เธอก็มุ่งมั่นประกวด ก็กินอาหารเฮลท์ตี้ฟู้ดมากขึ้น ผมก็ช่วยพาไปออกกำลังกายด้วยกัน และพุชเธอตอนที่เธอไม่อยากออกกำลังกาย หรือไม่อยากกินอาหารเฮลท์ตี้ก็บอกว่ามากินด้วยกัน

วันที่ขี้เกียจไปยิมทำยังไง?

วีนา : มีแต่เขาค่ะที่ขี้เกียจไปยิม (หัวเราะ)

ตอนนี้เอวเหลือเท่าไหร่?

วีนา : 23 ค่ะ ก็รู้สึกว่าเป็นเอวที่เล็กที่สุดตั้งแต่เป็นสาวมา

เมื่อก่อนวีนาพูดไม่เก่งขนาดนี้?

วีนา : เวลามีสามีเราจะเถียงกันมากขึ้น (หัวเราะ) เราก็ฝึกจากตรงนี้ค่ะ ล้อเล่นค่ะ วีนาฝึกมานะคะ วีนาทำรายการออนไลน์ทีวีโชว์ ทำรายการเพื่อสังคม มาพูดเรื่องโซเชียลอิชชู เราก็ฝึกตรงนั้นมาเรื่อยๆ เราทำมาสามปีแล้วค่ะ ชื่อรายการ The Spark Show ก็อยากให้ติดตามชมค่ะ  

อยู่บ้านพูดภาษาอังกฤษตลอด?

วีนา : ใช่ค่ะ ที่บ้านใช้ภาษาอังกฤษหมดเลย เมื่อก่อนอาจต้องแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้คิดปุ๊บเป็นภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ

เต็มสิบให้ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของภรรยาเท่าไหร่?

หาญเจริญ : 10 เต็ม 10

คลั่งรักรู้จักมั้ย?

หาญเจริญ : ถ้าไม่บอกว่า 10 เต็ม 10 เดี๋ยวจะมีปัญหา (หัวเราะ)

ในฐานะคุณจะส่งภรรยาไปจักรวาล ตอนนี้พร้อมแค่ไหนในการเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต?

หาญเจริญ : ผมคิดว่าเป็นแพชชั่นของเธอมาก เต็มที่ ออกกำลัง ฟิตซ้อมทุกวัน เหมือนเวลาเดินขึ้นบันไดก็ทำให้เธอเดินอย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น

จริงมั้ย คุณคือนักธุรกิจระดับหมื่นล้าน?

หาญเจริญ : โน! ไม่ถึงหลักพันล้าน แต่คืออยากทำงานเพื่อเมคชัวร์ว่าธุรกิจขับเคลื่อนได้ดี มีผลดีต่อธุรกิจไทย

ทำงานอะไร?

หาญเจริญ : ผมทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เหมือนใช้เทคโนโลยีและการตลาดให้บริษัทใหญ่ๆ ได้เข้าถึงสังคมมากขึ้น และมีผลทางมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น และอีกส่วนที่ผมเพิ่งเริ่มคือผมจะทำเกี่ยวกับมิวสิก โปรดักชั่นเฮ้าส์ แล้วผมเองก็จะใช้ตัวเองเป็นอาร์ติสต์ มิวสิก อินเดียน ป๊อป ภาษาอังกฤษ มิกซ์ๆ กัน อาจมีไทยด้วย ก็ต้องฝึกภาษาไทย

วีนาช่วยเรื่องบริษัทมั้ย?

วีนา : ช่วยค่ะ ในเรื่องการทำเกี่ยวกับดิจิทัลออนไลน์ เรื่องการทำเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นต่างๆ เราก็ช่วย แล้วเราก็ช่วยในเรื่อง CSR ของบริษัทด้วย ทำรายการ  The Spark Show นั่นเอง เป็นรายการช่วยพัฒนาสังคม

ด้วยอาชีพสามี จะช่วยผลักเราไปอีกก้าวในการคว้ามงฯ ถือว่าได้เปรียบมั้ย?

วีนา : วีนามองว่าประสบการณ์สำคัญ และวีนามีประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้จากเขาเองที่ช่วยสอน เรื่องการทำออนไลน์และทำให้เราเข้าใจโลกดิจิทัลมีเดียมากยิ่งขึ้น ยิ่งเรามีประสบการณ์เยอะ ก็จะยิ่งผลักดันเราให้เป็นคนรอบรู้และมีส่วนในการคว้ามงฯ ได้อยู่แล้วค่ะ

ปีนี้ถ้าพลาดอีก ปีหน้าเราจะกลับมามั้ย?

วีนา : วีนาว่าถ้าเราวางแผนมาดี มีแพชชั่นแรงกล้าจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเราจะใส่ความพยายามเต็มที่ มากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์เลย ฉะนั้นถ้าแพลนเอเราทำได้เต็มที่แล้ว ก็ไม่มีแผนสำรอง วีนาจะต้องได้มิสยูนิเวิร์ส ปีนี้เท่านั้น

ต้องได้เป็นมิสยูนิเวิร์สคนที่สามของประเทศไทย?

วีนา : ใช่ค่ะ มุ่งมั่นมากค่ะ และรู้สึกว่ามันจะขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า วีนาว่าประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการได้รับมงกุฏนางงามจักรวาลคนต่อไปค่ะ

เป็นสายมูมั้ย?

วีนา : ส่วนตัวบอกตรงๆ ไม่เคยดูดวง ไม่ค่อยเชื่อเรื่องการมูเท่าไหร่ แต่พอเราอยู่กับทีม ทีมเราเขาเชื่อเรื่องนี้ เขาชวนไปเราก็ไปด้วย แต่ส่วนตัวเชื่อเรื่องเราคิดและอยากได้อะไร เราพูดอะไรดีๆ ออกไป มันจะมีสิ่งดีๆ ดึงดูดกลับมาที่ตัวเราถ้าเราคิดว่าเราคือมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หรือเราคิดทุกวันว่าเราอยากเป็นเจ้าของบริษัท หรืออยากเป็นใครหลายๆ คนเราเชื่อมั่นในสิ่งนี้ สักวันเราจะทำได้

ที่ผ่านมาเป็นนางงามนักสู้ พอแต่งงานแล้ว ถูกคนเม้าธ์ มีสามีแล้ว ทำไมไม่อยู่บ้านดีๆ อยากบอกเขาว่ายังไง?

วีนา : วีนามองว่าผู้หญิงในปัจจุบัน สามารถทำงานอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่บ้านอย่างเดียว ผู้หญิงสมัยนี้โมเดิร์นมาก ไม่ใช่โลกสมัยก่อนแล้ว วีนาออกไปทำงานได้ คุณสาก็ออกไปทำงานได้ หรือวีนากลับมาบ้าน วีนาทำกับข้าวได้คุณสาก็ทำกับข้าวให้วีนาได้ อร่อยด้วยนะคะ

วีนาเคยโดนบูลลี่เรื่องหน้าตาตอนเด็ก?

วีนา : ตอนเด็กๆ ด้วยความเราเป็นคนอินเดีย เกิดในไทย คนในสังคมยังไม่เข้าใจเรื่องความหลากหลายของเชื้อชาติสีผิว หรือเชื้อชาติ ตอนเด็กภูมิใจในตัวเองมาก แต่เพื่อนๆ จะล้อด้วยความที่เราปากหนากว่าคนอื่น หารู้ไม่ ปัจจุบันนี้ใครๆ ก็อยากได้นะคะ(หัวเราะ) ก็โดนล้อ ตอนเด็กๆ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องล้อเราด้วย พอเติบโตเราก็อยากบอกเรื่องความเท่าเทียมความหลากหลายว่าจริงๆ แล้วคนไทยมีหลากหลายรูปแบบเลยแหละ เราเข้าใจซึ่งกันและกันดีกว่า

ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่มั้ย?

วีนา : ปัจจุบันน้อยแล้วค่ะ วีนามองว่าประเทศไทยมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลสูงขึ้นเยอะเลย มีความโอเพ่น และเข้าใจเรื่องความแตกต่าง เรามีหลากหลายเพศ และเป็นหนึ่งในประเทศที่เซเลเบรชั่น ของไพรด์ของไทยยิ่งใหญ่มาก วีนาก็อยากสานต่อสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น อย่างเช่นสมรสเท่าเทียม และให้คนเข้าใจเรื่องความแตกต่างของเชื้อชาติมากยิ่งขึ้น

ตอนนั้นจัดการกับความคิดตัวเองยังไง ตอนที่โดนบูลลี่?

วีนา : ตอนเด็กๆ ไม่เข้าใจว่าเราผิดหรือแตกต่างตรงไหน แต่โตมาเราจะรู้ว่านี่แหละคือคนที่เราเกิดมาเป็นคนแบบนี้ฉะนั้นอย่ายอมเปลี่ยนแปลงเพราะคนมาบอกว่าเราอ้วนไป สูงไป ปากใหญ่ไป หรือเราผิวคล้ำไป เราควรภูมิใจกับสิ่งที่เรามี เพราะสิ่งที่เรามีตรงนี้ทำให้เรายูนีค ทำให้เราเป็นเรานี่แหละเพียงหนึ่งคนในประเทศ ในโลก ในจักรวาลนี้ค่ะ

ตอนประกวด มีคนพูดอีกว่า มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ก็คือมิสยูนิเวิร์สคนไทย มีคำบูลลี่มา ซึ่งเขาบอกว่าวีนาไม่เหมาะกับมิสยูนิเวิร์ส อยากบอกอะไรพวกเขา?

วีนา : จริงๆ คำว่าคนไทยอธิบายได้ยากมากนะในปัจจุบัน เพราะวีนาเห็นคนไทยหลากหลายรูปแบบมาก วีนาเห็นคนไทยผิวเข้ม เห็นคนไทยที่หน้าตาเหมือนคนจีนด้วยซ้ำ คำว่าคนไทยสำหรับวีนาคือคนที่เติบโตมาในประเทศไทยเหมือนที่วีนาเกิดมาจากเชียงใหม่ เป็นคนเชียงใหม่ สาวเหนือ แล้วได้ไปอยู่ยะลา ได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมเยอะแยะมากมาย ชอบทานอาหารไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์หลักๆ ของคนไทย ตรงนี้แหละมันทำให้เราเป็นคนไทย มันอยู่ข้างใน ถ้าเราปิดไฟแล้วทุกคนพูดภาษาไทยหมดเลย เราจะรู้มั้ยว่าคนๆ นั้นเชื้อชาติอะไร

คุณก็โดนเหมือนกัน?

หาญเจริญ : ผมโดนตลอด โดนหนักกว่าเขาด้วยซ้ำไป ถ้าเขาสวยแล้วยังโดนขนาดนี้ ผมผู้ชายนะ (หัวเราะ) โดนล้อเลียนเยอะ เคยโดนต่อยสลบไปเลย 2-3 ครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องในอดีต ผมมูฟออนมานานแล้ว

นี่เลยเป็นโครงการ Be An Ally,Not A Bully ขอวีนา?

วีนา : แคมเปญนี้เกิดจากสตอรี่วีนา ที่เราผ่านมาตั้งแต่เด็ก และการที่เราเห็นคนรอบข้าง ตอนวีนาอยู่มหาวิทยาลัย มีเพื่อนหลากหลายทางเพศ เขาอบกว่าเขาโดนตั้งแต่เด็กเหมือนกัน วีนาก็คิดว่าการบูลลี่มันมีเยอะมากจริงๆ ปี 2020 อยู่อันดับ 2 ของโลก เรารู้สึกว่าเราไม่ภูมิใจที่ประเทศไทยมีการบูลลี่อยู่อันดับสองของโลก เราอยากเปลี่ยนตรงนี้ เราเลยจัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อลดการบูลลี่ของสังคมไทย ทำให้เข้าใจความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มาถึงตอนนี้ วีนามีโครงการสองด้วยนะคะ จัดตั้ง The Spark Show และพูดคุยเรื่องบูลลี่ ให้กำลังใจคนผ่านการบูลลี่ ยับยั้งไม่ให้เกิดการบูลลี่ในสังคม ปัจจุบัน วีนาสนใจเรื่องสังคมที่ยั่งยืน มันจะเกิดขึ้นได้ถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน เข้าใจในความหลากหลาย อยากเห็นที่ทำงานมีคนทุกเพศ ทุกสีผิว ทุกรูปร่าง ทุกโครโมโซม ทำงานด้วยกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดเป็นสังคมที่ยั่งยืนค่ะ

นี่ฝึกไว้พูดบนเวทีหรือเปล่า?

วีนา : เปล่าค่ะ คุยเล่นๆ ค่ะ (หัวเราะ)

วีนาใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่กับคุณย่า?

วีนา : เกิดที่เชียงใหม่ อยู่กับคุณแม่ คุณย่า หลังคุณพ่อเสีย พูดเหนือได้นิดหน่อย จากนั้นย้ายไปอยู่ยะลากับคุณป้าตอนนั้นด้วยความเสียเสาหลักของคุณพ่อ คุณย่าคุณแม่ต้องดูแลเรา เราเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีมากพอ ก็เลยย้ายไปอยู่กับคุณป้าเพื่อแบ่งเบาภาระ ก็เลยได้เรียนรู้ผู้หญิงที่เป็นเอ็มพาวเวอร์มากๆ จากคุณป้า เพราะคณป้าเปิดร้านขายของ เขาทำมาตั้งแต่อยู่ในห้องเช่าเล็กๆ จนปัจจุบันคุณป้ากับคุณลุงช่วยสร้างให้ร้านยิ่งใหญ่หลายห้อง และประสบความสำเร็จมากๆ พอเราอยู่ยะลา ก็ช่วยคุณป้าขายของตอนกลับจากโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ ตั้งใจอยากช่วยอยากเรียนรู้ เคยเป็นเลขาคุณลุงด้วย ช่วยทำคำนวณอะไรต่างๆ ทำให้เราเรียนรู้ว่าไม่ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ถ้าเราพยายามทำเหมือนคุณป้าของวีนา สู้ทุกวัน ตื่นเช้านอนดึกก็ไม่เป็นไร เราก็จะได้ในสิ่งที่เราต้องการ เราจะเป็นได้ในสิ่งที่เราอยากเป็น

นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มุ่งมั่นว่าจะเป็นมิสยูนิเวิร์สคนแรกที่แต่งงานแล้ว?

วีนา : ใช่ค่ะ การที่วีนาแต่งงานแล้ว ค่อนข้างได้รับคำพูดที่ไม่เข้าข้างผู้หญิงเท่าไหร่ อย่างเช่น เธอแต่งงานแล้ว ก็ทำงานบ้านอยู่บ้านไปสิ ไม่ต้องออกมาทำงานบริษัทหรอก เราอยากเปลี่ยนคำพูดเหล่านี้ เพราะเรารู้ว่าผู้หญิงมีทาเลนจ์เยอะมากๆ เป็นไปได้ทุกอย่าง เป็นนายกฯ ยังได้

ย้อนเส้นทางความรัก เจอวีนาครั้งแรก คุณเดินไปบอกเขาว่า?

หาญเจริญ : ขอคุยด้วย อยากคุยด้วย ตอนนั้นเธอแต่งชุดอลังการมาก อยากคุยด้วย

แล้ววีนาตอบว่าไง?

วีนา : ทำงานอยู่ค่ะตอนนั้น แต่งตัวสวย ก็บอกว่าเดี๋ยวแป๊บนึงนะ ทำงานอยู่ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ก็รู้สึกว่ากล้าจังเลย เป็นผู้ชายคนแรกที่กล้ามาคุยตอนที่เราทำงาน ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้า มีแต่คนมองอย่างเดียว แต่นี่กล้ามาก เดินเข้ามาพูดเลย

เพราะความหล่อหรือความกล้าของเขาที่ชนะใจเรา?

วีนา : อย่างละนิดของทั้งคู่ (หัวเราะ) เขาเดินเข้ามาก็บอกว่าอยากคุยกับเรา เราก็บอกเราทำงานอยู่นะ

แล้วได้เบอร์ได้ไลน์เขามายังไง?

หาญเจริญ : ตอนนั้นทักอินสตาแกรมไป แต่เขาไม่ตอบ ก็เขียนอีเมล์ไปเลย อยากเป็นเพื่อนก่อน

ดีเอ็มก็ไม่เวิร์ก ไม่ตอบ เขียนอีเมล์ไปตอบมั้ย?

หาญเจริญ :   ตอบหลังจากนั้นเดือนนึง (หัวเราะ)

วีนา : จริงๆ ไม่เห็น ไม่ได้เช็ก จริงๆ 3 เดือนด้วย ไม่ใช่เดือนเดียว ก็เลยจำได้ว่าอุ้ย ผู้ชายคนนี้ทักฉันที่งานนั้น

ตอนประกาศแต่งงาน โดนแฟนคลับถล่ม?

วีนา : เขาโดนดีเอ็มเยอะว่าทำไมต้องมาแย่งวีนาของฉันไป วีนาก็โดนบ้างว่าทำไมทรยศเรา ไหนบอกว่าจะมาจนกว่าจะมงฯ เพราะเคยพูดไว้ตอนปี 2018 ว่าจะมาจนกว่าจะมงฯ

ตอนนั้นรับมือยังไงกับ DM แย่ๆ?

หาญเจริญ : ตอนนั้นก็เอาให้เขาดูว่าทำไมเป็นแบบนี้ ผมทำให้เธอไม่ได้ประกวดใช่มั้ย เขาก็บอกว่าไม่ใช่ เขาแฮปปี้แล้ว ตอนแรกไม่ได้รู้สึกดี ไม่อยากให้คนเกิดความรู้สึกไม่ดี  

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์