ตัวแทนชาวสีม่วงคนแรก และคนเดียวในสภา ครูธัญ หรือ ส.ส.ธัญวัจน์ และ LGBTQ สุดแซ่บ อย่าง โก้ ธีรศักดิ์ ที่วันนี้ขอมาประกาศความสำเร็จร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านมติสภาแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ที่มีหนิง ปณิตา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

รู้สึกยังไงบ้างที่วาระแรกผ่านเรียบร้อยแล้ว?

ส.ส.ธัญ : ธัญพูดกับสื่อทุกท่านนะคะว่าไม่อยากมองว่าเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ส.ส.ที่โหวตก็มีฝ่ายรัฐบาล ธัญขอขอบคุณตรงนี้ เพราะว่าท่านโหวตด้วยหัวใจ

โก้ : ทั้งชีวิตที่เราอยู่ตรงนี้มาแล้วเราก็เห็นการขับเคลื่อนของคนในสังคม รวมไปถึงคนที่อยู่ในรัฐสภาด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ อยากให้มองว่าพวกเขา พวกเราไม่ใช่ มันคือเราอยู่ในประเทศเดียวกัน ความสุขหรือความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก แล้วทุกคนเห็นตรงนี้ปุ๊บน่าจะเป็นเรื่องราวดีๆ ในอนาคต ก็หวังว่าอีก 2-3 เดือนข้างหน้า น่าจะดีขึ้น

ที่เราเสนอเกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมกัน มันคืออะไร?

ส.ส.ธัญ : เวลาที่เรามีคู่สมรส จริงๆ แล้วมันเป็นวิธีคิดแบบผู้ชาย ผู้หญิงเท่านั้น นั่นหมายความว่าคนที่มีเพศด้านอื่นหรือมีอัตลักษณ์เพศที่ไม่ได้เป็นผู้หญิง ผู้ชาย ทั่วไป เขายังสมรสกันไม่ได้ เวลาที่เรามองคนกลุ่มนี้เขามีเสรีภาพแต่มีแค่ครึ่งนึง เพราะว่าเขาไม่สามารถอยู่กับคนที่เขาต้องการได้ ดังนั้นกฎหมายสมรสเท่าเทียมจึงเป็นกฎหมายที่เราแก้ เพื่อให้บุคคล ทุกคน ทุกเพศ สามารถสมรสกันได้

ผ่านมา 2 ปีเต็มๆ ผลโหวตพอมันออกมาชนะ หัวใจแรกคิดถึงเรื่องอะไร?

ส.ส.ธัญ : แว๊บแรกเหมือนแฟลต เรารู้สึกแอนตี้เลยนะ มันเหมือนวิญญาณมันหลุดไปเลย แล้วเราก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ ผลโหวตชนะจริงๆ เราเลยบอกในกล้องไปว่า มันเหมือน LGBT ทุกคนได้มงกุฏนางงามจักรวาล มันเป็นฟิลลิ่งที่มีความสุข

แต่พอคู่ธัญร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม อีกฝั่งออกพรบ.คู่ชีวิต มันเกิดอะไร?

ส.ส.ธัญ : มันคือสร้างความสับสนให้กับประชาชน เพราะอย่างแรก กฎหมายสมรสเท่าเทียม เราแก้ชาย-หญิง เป็นบุคคล แก้สามี-ภรรยา เป็นคู่สมรส เท่านี้กฎหมายสิธิประโยชน์เกี่ยวกับคู่สมรสที่เป็นราชการ ประกันสังคม ลดหย่อนภาษี การรักษาพยาบาลก็เหมืนชาย-หญิง ทั่วไป แต่พอคู่ชีวิตปุ๊บ มันไม่เคยทีบัญญัติอยู่ในกฎหมายอื่น แล้วคำภามก็คือ LGBT จะไปอยู่ในกฎหมายสิทธิอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่คลุมเครือ มันเลยเกิก แฮชแท็ก #ไม่เอาพรบ.คู่ชีวิต

พรบ.คู่ชีวิตกับ สมรส เท่าเทียมต่างกันย้งไง

โก้ : โก้ว่าคำอธิบายมันไม่ยากเลยนะคะ ถ้าเราตรรกะแบบมนุษยชาติ เท่าเทียมคือเป็นคนเหมือนกัน

ย้อนกลับไปทำไมถึงมีกฎเดิมเป็นแบบนั้น ทำไมเขาไม่มองอนาคตระยะยาว ซึ่งมีเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้น?

ส.ส.ธัญ : ธัญไม่ได้ว่าผู้ชายที่ชมอยู่ หรือผู้ชายที่กำลังทำงาน แต่ธัญกำลังบอกว่าเราอยู่ในโลกที่มีความคิดแบบชายน้อมเอียงไปทางผู้ชายกล่อมเกลาสังคม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเราจะต้องต่อสู้สร้างอาวุธ เพื่อจะสร้างอณาจักร ไม่ว่าเราจะให้ความมั่นคงในสิ่งต่างๆ ของอาวุธพละกำลังทหารต่างๆ  เรากำลังจะบอกว่าเนี่ยโลกความมั่นคงที่ชายเป็นใหญ่ วัฒนธรรมก็มองว่ารักต่างเพศเท่านั้นจะเป็นเรื่องชอบธรรม คนที่มีวิถีหรือคนที่มีเพศอื่นๆ เป็นคนผิดปกติ ผิดธรรมชาติ ฉะนั้นต้องไม่ได้รับการยอมรับ เราต้องตั้งคำถามมากขึ้น ทำไมมีคำพูดว่าผู้หญิงเป็นช้างท้าวหลัง ทำไมมีคำด่า เธอคือหน้าตัวเมีย ทำไมเราต้องยัดเยียดความเป็นช้างท้าวหลังหรือความเป็นหญิงให้มันด้อยค่ากว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นการต่อสู้ในเรื่องเพศเราต้องทำงานในทุกมิติว่าในการสื่อสารนั้นเราจะสร้างความเท่าเทียมได้ยังไง ในเชิงนิติบัญญัติกฎหมายเราจะสร้างให้มันเสมอภาคได้ยังไง

พอมันมีการพูดถึง พรบ.คู่ชีวิตขึ้นมา เขามองเลยว่า LGBTQ เป็นพลเมืองชั้น2 แล้วคนในโซเชียลรับเรื่องตรงนี้ไม่ได้?

โก้ : มันถูกกดทับมานาน แล้วต้องขอบคุณครูธัญด้วยที่เข้าไปทำงานตรงจุดนั้นแล้วได้ออกกฎหมาย ได้ศึกษาเพื่อกลุ่มคน กลุ่มนึง แม้ว่ามันไม่ใช่ 80-90% ของประเทศ แต่คนประมาณ 10% ของคนทั้งประเทศก็มีความสำคัญ แล้วก็ทำให้คนกล้าออกมาพูดมากขึ้น หลายๆ อย่างมันเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นเราต้องเปิดใจให้กว้าง โดยเฉพาะครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหลายๆ คนเริ่มต้นจากครอบครัวก็ดูถูกกันเองแล้ว ดังนั้นไม่แปลกถ้าออกไปนอกบ้านแล้วคนดูถูกลูกของท่านอีกครั้งหนึ่ง

เห็นบอกว่าตอนเสนอร่างกฎหมายนี้ไปแรกๆ คณะรัฐมนตรีทั้งหลายบอกว่าขอเวลาไปศึกษา เกือบจะคว่ำร่างกฎหมายนี้ไปเรียบร้อย ตอนนั้นใจเป็นยังไง แล้วกว่าที่เขาจะเอามาพิจารณาตั้งแต่มิถุนา ปี 63 มาพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ปี65 ?

ส.ส.ธัญ : ธัญต้องฝากบอกผู้มีอำนาจนะคะ หลังจากวันที่9 กุมภา ที่ธัญได้อภิปรายเปิดไปมีคุณแม่ท่านนึงเป็นรุ่นน้องธัญ แต่เขาอายุ 70 กว่าแล้ว พอคณะรัฐมนตรีบอกจะเอาไปศึกษา คุณแม่ซึ่งอายุ 70 กว่าบอกว่า เรื่องนี้มันเข้าใจอะไรยากเหรอ เรื่องง่ายๆ ไม่เข้าใจ จะบอกว่าคุณยายท่านนึงที่อายุ 70 กว่าเขายังเข้าใจที่ธัญพูด แต่คณะรัฐมนตรีไม่เข้าใจ

เขาเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าความรักไม่ใช่เรื่องที่ผิดเพศ ผิดธรรมชาติ?

ส.ส.ธัญ : เดี๋ยวต้องไปเจออีกหลายสงครามในกรรมาธิการ

กรรมาธิการเขาชอบพูดว่าเรื่องความรักถ้าไม่ใช่ชาย หญิง เป็นความรักผิดเพศ ผิดธรรมชาติกังวลเกี่ยวกับเรื่องศาสนา ศาสนามันจะเสื่อมไหมกับความรักผิดเพศ?

โก้ : ตรรกะบางอย่างถ้ามันวิปลาศมากๆ มันจะทำให้สังคมเสื่อม ตัวโก้เองก็เป็นพุทธศาสนิกชน เราต้องรู้อยู่แล้วแหละบางทีขึ้นดอยไปทำบุญ ผู้หญิงก็ไม่สามารถเดินได้ ถ้าสิทธิเท่าเทียมกันผู้หญิงต้องลุกขึ้นมา ฉันจะเดิน มันเป็นไปไม่ได้พวกนั้นต้องเป็นตรรกะที่เขาต้องรู้กันอยู่แล้ว อันไหนที่ทางศาสนาเขาสั่งสอนมาก็ไม่มีใครเขาไปฝืนไปแหกหรอก ดังนั้นอย่าเอาสองเรื่องมารวมกันแล้วกวนให้ปวดหัวแล้วงงกันไปใหญ่ แยกกฎหมายส่วนกฎหมาย ส่วนเรื่องปฏิบัติทางด้านศาสนาเนี่ยทุกคนเขามีสามัญสำนึก เขามีวิจารณญาณในการปฏิบัติ สิ่งไหนที่มันไม่คู่ควร สร้างมาเป็นร้อย เป็นพันปีไม่มีใครเขาไปยุ่งอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการครอบคลุมกฎหมายเรื่องต่างๆ ทำไมมันถึงต้องเรียกร้องเท่านั้นเองดังนั้นต้องมีจิตใจที่ฉลาดนิดนึงก็จะคิดได้

ส.ส.ธัญ : ธัญเคารพทุกศาสนานะ ธัญคิดว่าเราจะไม่ขัดแย้งกัน ถ้าเราไม่เอามาเกี่ยวข้องกัน ไม่งั้นเราต้องตั้งคำถามหมดว่า ประเทศไทยขายเนื้อหมูได้ไหม ประเทศไทยขายอุปกรณ์คุมกำเนิดได้ไหม ประเทศไทยจะมีการใช้เทคโนโลยีในการตั้งครรภ์ได้ไหม ทุกอย่างผิดหลักศาสนา

บางทีในเพศภาพในความเป็นเราเนี่ยอาจจะสาวมาก แต่อาจถูกมองว่าวิกลจริต ไม่สามารถบวชได้?

โก้ : บางครั้งไปบวชอาจจะปฏิบัติได้ดมากก็มี มันถูกกดทับมานานไง พอเปิดมาตรงนี้ปุ๊บเรารู้สึกว่ามันเป็นนิมิตรหมายอันดี แล้วอยากให้ท่าน สว.หรือว่าใครก็แล้วแต่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนึกถึงลูกหลานในอนาคต อาจจะเป็นลูกของท่านก็ได้ที่ชีวิตเขาไม่มีความสุขถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าหรือถูกบีบรัดจากสังคมภายนอก อย่างดารา นักแสดงเอง มีอยู่ช่วงนึงที่ไม่ให้ตุ๊ดเล่น เพราะเขาคิดว่าพวกเราคือโอมิคอน มันจะเร็วใครเห็นเราปุ๊บเขาจะติดเลย แล้วพวกนี้ไม่ได้ไปเดินงานกาชาติสอยดาวมาแล้วคุณมีสิทธิ์เป็นตุ๊ด แล้วคุณได้เป็น มันไม่ใช่ทุกอย่างมันเกิดจากที่เขามีความคิด จิตใจ หรือว่าสภาพยีนส์เป็นอย่างนั้น ในความคิดส่วนตัวโก้ ถ้าไปแอบ ไปปิด ถ้ามีความเชื่อว่ามันถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม คนที่แอบ ที่ซ่อน ไปแต่งงานมีลูก มีเมีย ลูกนั่นแหละได้รับยีนส์ไปหมดเลย ดังนั้นทำให้มันถูกถ้าไม่ใช่ ก็อย่าไปแต่งงานกับผู้หญิง มันก็จะไม่มีปัญหาสังคมต่อให้มันชัดเจนกันไป

มีวลีเด็ดอยู่หนึ่งวลีในสภา และเหตุการณ์ครั้งนี้แอบทราบมาว่ามี ส.ส.ท่านนึงไม่พอใจกับสิ่งที่ครูธัญพูด ลุกขึ้นกลางสภาเลย อันนี้จริงไหม?

ส.ส.ธัญ : เราต้องยอมรับอย่างนึงว่า เรื่องนี้มันเปลี่ยนความคิดสังคม เป็นสิทธิ์ของท่านแหละ เพราะท่านมีความเชื่อเรื่องศาสนา ธัญเคารพ ท่านจะพูดอะไรสภาก็ได้ แต่ว่าท่านก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ท่านพูด ธัญจะบอกว่าเวลาที่คนเราจะยอมรับกัน เราสร้างคอมพิวเตอร์ เราสร้างไมโครโฟน เรามีเสื้อผ้าสวยงาม เรามีรองเท้า มีกล้องโทรทัศน์ นี่คือวิทยาศาสตร์แห่งวงการบันเทิง มีเครื่องสำอางที่สวยงาม แล้วกะเทยซึ่งมีลมหายใจที่พูดอยู่ เราคือธรรมชาติ เราจะบินไปนอกอวกาศเพื่อไปยอมรับสิ่งที่ไม่มีชีวิต แล้วก็บอกว่า นี่คือความสำเร็จของมนุษยชาติ มันคือความสำเร็จจริงหรือเปล่า เพราะว่าเรายังไม่ได้ยอมรับคนที่เป็นเพื่อนเรา

โก้ : เราไม่แปลกใจนะคะที่จะมีคนลุกออกไป เพราะเราคือประเทศแห่งประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์ออกเสียง แต่โดยรวมแล้ว 210 เสียง มันชนะไง มันดีในระดับนึงแล้วทำให้ทุกคนรู้สึกฝากความหวังอีกครั้ง สำหรับผู้นำประเทศ คนที่ออกกฎหมาย ส.ส.ทุกท่าน โดยเฉพาะท่าน สว.งานนี้จะพิสูจน์ว่าท่านสว.เข้าใจพวกเราหรือเปล่า

ทุกครั้งที่ครูธัญพูดถึงเพศที่ผิดสภาพ ครูธัญจะน้ำตาไหล เพราะอะไร?

ส.ส.ธัญ : เวลาที่เราอยู่ในสังคมแล้ว เออ..เธอผิดธรรมชาติ เธอเบี่ยงเบน มันเป็นเหมือนชิปที่ถูกฝั่งอยู่ในหัวจากการศึกษาในสังคมไทย เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไปอยู่ในสังคม เขาไม่ได้พูดว่าเธอออกไป เธอผิดธรรมชาติ แต่เขาจะมีวิธีการที่จะเลือกปฏิบัติ เขาจะมีวิธีการที่จะเลื่อนตำแหน่ง เขาจะมองเรื่องเพศมากกว่าเรื่องงาน เพราะฉะนั้นความเสมอภาคทางเพศเราไปดูในโรงเรียนเลย วันนี้ในธุรกิจหรือในบริษัทสำคัญๆ  มีกลุ่ม LGBT กี่เปอร์เซ็นต์ มันเกิดจากสังคมมองว่าเราเบี่ยงเบน  มันส่งผลต่อกลุ่มคนข้ามเพศที่บางคนไม่มีงานทำ หางานยาก มันส่งผลว่าคนยังมองพวกเราผิดปกติ

หลังจากนี้ครูธัญจะวางแผนต่อไปยังไง เหลืออีกหลายวาระ?

ส.ส.ธัญ : ธัญรู้พูดในเชิงกฎหมายมันก็เถียงกันไป แต่ธัญคิดว่าธัญจะทำมันด้วยหัวใจ เพราะว่ากฎหมายฉบับนี้ทุกคนต้องโหวตด้วยหัวใจ

อยากจะบอกอะไรกับคนที่เหยียดเพศสภาพกับความไม่สมประกอบของเรา?

ส.ส.ธัญ : อย่างที่ธัญอภิปรายไปในสภาว่ากะเทยเป็นเรื่องธรรมชาติ

โก้ : การที่เขาตะเหยียดเราคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่เชื่อว่าบริบทใหม่ๆ ในสังคมมันเกิดขึ้นแล้ว คนดังเองเขาก็ออกมาข่วยขับเคลื่อน ดังนั้นเราก็เป็นกำลังใจให้ตัวเอง และเป็นกำลังใจให้นักการเมืองอย่างครูธัญด้วย ที่ทำสิ่งที่หลายๆ คนทำไม่ได้ เพราะทุกคนไม่มีสิทธิ์ไปนั่งในรัฐสภา ก็อยากให้ทุกคนช่วยๆ กัน 

คุณโก้ได้ข่าวว่าถูกไล่ออกจากโรงเรียน?

โก้ : เรียกว่าเขาเชิญออกดีกว่า ภาษาบ้านๆ คือไม่ให้เรียนต่อ เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนประถม ช่วงหลังๆ เรามีโอกาสได้เข้ามาทำงานกับ LGBT มากขึ้น เหมือนเราก็จะเป็นตัวอย่างในยุค90 แล้วมาพูดให้ผู้ปกครอง หรือน้องๆ รุ่นใหม่ว่าสมัยก่อนเขาไม่ยอมรับ เราเหมือนเป็นจุดอ่อนของโรงเรียน

ไม่ยอมรับในที่นี้คือโรงเรียนไม่ยอมรับ พ่อแม่ ไม่ยอมรับด้วย?

โก้ : ทั้งหมดเลย เพราะพ่อ แม่ต้องฟังครูจากโรงเรียน โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครอง และเหตุผลที่เขาจะเชิญไปเนี่ยจะบอกว่าลูกท่านมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน

มันผิดอะไร?

โก้ : มันผิดมาก สมัยนั้นคือคนที่เบี่ยงเบนด้วยกัน ห้ามคบกัน ห้ามเจอกัน ห้ามรวมตัว ถ้ามีสัญญาณมีรังสีอำมหิตเราจะถูกจดชื่อว่าพวกเรามารวมตัวกันอีกแล้ว การรวมตัวของเรามันคือการซ่องโจร คือน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี สุดท้ายเขาก็ไม่ให้เรียนต่อ แต่ด้วยความที่พวกเรามีปมด้อยในเรื่องของการถูกเหยียดอย่างนี้ สิ่งที่เราทำได้ คือเราต้องไฟว์หนักทางด้านการเรียน ส่วนใหญ่เพื่อนในกลุ่มที่กระจัดกระจายกันออกไปก็จะเป็นคนเรียนดีกันหมด อย่างสมัยตอนเด็กๆ เวลาเชิญผู้ปกครองไปแล้วต้องออกจากโรงเรียน ที่บ้านจะบอกเลยถ้าไปสอบที่อื่นไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียนต่อ แต่เรามั่นใจว่าตัวเราเองยังไงก็สอบได้ เราสอบได้ที่บดินทรเดชาวันที่ไปยืนหน้าบอร์ดดีใจ กลับบ้านโดนตีเลย

ทำไมโดนตี สอบได้แล้ว?

โก้ : ไปอุทานหน้าบอร์ดว่า โอ้ว…มายกอส ฉันสอบติด สมัยก่อนไม่ได้เลย เราดันดีใจเกินไปไง มันเลยแบบว่าหางโผล่เลย แต่ก่อนครูส่วนใหญ่จะชอบโทรไปฟ้องที่บ้าน

เห็นว่าโทรไปฟ้องแล้วพ่อ แม่ ด่าพี่โก้ว่าพี่โก้ทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูล?

โก้ : พ่อ แม่ไม่ด่า แต่พี่สาวด่า เราไม้ได้โกรธเขา แต่เราเข้าใจว่าเขาไม่เข้าใจ เขาจะบอกเลยว่าเราเป็นลูกชายนามสกุลคือนาสกุลหลักของที่บ้าน เราจะเป็นผู้ที่ทำให้วงศ์ตระกูลเสียชื่อเสียง บางทีบอกว่าไปเปลี่ยนนามสกุลทิ้ง ด้วยเหตุผลแค่ว่าเรามีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ถึงขั้นบางทีเราหนีออกจากบ้าน ซึ่งคนก็ไม่เคยรู้ภาพอันสวยงามของโก้ ธีรศักดิ์นั้นแต่ก่อนมันก็เคยถูกกดทับด้วยบรรยากาศแบบนี้ แต่เราต้องสู้ สู้กับสังคมที่เขาไม่ยอมรับ

พี่โก้ได้ผู้หญิงมาแล้วเหมือนกัน?

โก้ : ตอนนั้นเรายังเด็ก เราก็คิดว่ามันน่าจะเป็นโรคติดต่ออย่างที่เขาพูดกันจริงๆ ถ้าเราเป็นแค่ LGBT เราน่าจะกินพารา หรือซาร่า ก็น่าจะหาย สมัยเข้ามา ตอนได้รางวัลประกวดได้ที่1 เรารู้สึกว่าเราต้องเป็นไอด้อลของใครหลายๆ คนเป็นพระเอก ทุกอย่างมันทำให้เราปฏิบัติตัวภายใน 1 วัน เราทำแบบนี้ซ้ำๆ เวลาเป็นเดือน ดังนั้นก็ไม่แผลกนะครับที่โก้ผมยาวขนาดนี้แล้วพูดครับได้ เพราะเราถูกฝึกมาอย่างนี้เรื่อยๆ  จนวันนึงเราทำธุรกิจส่วนตัว เราหารายได้ด้วยตัวเองมันไม่เกิดจากพันธนาการเป็นคนที่เขาชอบ เราถึงจะมีรายได้ หลังจากนั้นเราเลยรู้สึกว่าความสุขที่แท้จริงของเราคืออะไร มานั่งวิเคราะห์ตัวเองว่าอีกกี่ปีถ้าเราตายไปแล้ว เราจะได้ไม่เป็นตัวเองเหรอ หรือว่าเราควรจะมีความสุขกับปัจจุบัน ก็เลยทำให้ในอดีตมีส่วนให้เราไปทดลองผิด ลองถูก เราคิดว่าเราน่าจะหายแล้ว คงไม่เป็นอะไร คบผู้หญิงได้แต่เราไม่บอกชื่อว่าเขาเป็นใคร มันมีผู้หญิงหลายคนในช่วง 5-6 ปีแรกที่เราอยู่ในวงการบันเทิง แต่ละคนก็มีความรู้สึกที่ดี ปัจจุบันเจอกันก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แล้วไม่ได้มองว่าเราไปหลอกเขา เพราะในวันที่เรารู้จักเขา เราก็ไท่ได้หลอกเขา เราก็เต็มที่ เราคิดว่าเราหายแล้ว

เท่าที่รู้พี่โก้เคยเป็นผู้ชายเจ้าชู้?

โก้ : เราเป็นคนที่หน้าตาพอใช้ดังนั้นเรามีโอกาสที่จะคบคนได้

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ โก้ ธีรศักดิ์-ส.ส ธัญ